คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3133/2551คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2549 จำเลยมีเมทแอมเฟตามีน 3,800 เม็ด น้ำหนัก 382.810 กรัม คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ ได้ 28.483 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย กรณีจึงต้องด้วยบทกำหนดโทษตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 66 วรรคสาม อันเป็นคดีที่มีอัตราโทษประหารชีวิต ซึ่งตาม ป.วิ.อ. มาตรา 173 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า ก่อนเริ่มพิจารณาให้ศาลถามจำเลยว่ามีทนายความหรือไม่ ถ้าไม่มีก็ให้ศาลตั้งทนายความให้ อันเป็นคนละกรณีกับวรรคสองของบทมาตราดังกล่าว ซึ่งเป็นคดีที่มีอัตราโทษจำคุก ที่ศาลต้องสอบถามด้วยว่าจำเลยต้องการทนายความหรือไม่ ดังนั้น ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 173 วรรคหนึ่ง เมื่อจำเลยไม่มีทนายความ ศาลก็ต้องตั้งทนายความให้โดยไม่ต้องคำนึงว่าจำเลยต้องการทนายความหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อความคุ้มครองแก่จำเลยในคดีที่มีอัตราโทษประหารชีวิตในการต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ แต่คดีนี้ปรากฎตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้น ฉบับลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2549 ท้ายคำให้การรับสารภาพของจำเลยว่าศาลชั้นต้นสอบจำเลยเรื่องทนายความแล้ว แต่จำเลยแถลงไม่ต้องการทนายความ ดังนี้ จึงเป็นการที่ศาลชั้นต้นเพียงแต่สอบถามจำเลยเรื่องทนายความโดยไม่ตั้งทนายความให้จำเลย แล้วดำเนินการสืบพยานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยไปจนเสร็จ แม้ต่อมาจำเลยจะได้แต่งทนายความเข้ามา แต่ก็เป็นการแต่งทนายความเข้ามาในภายหลังจากที่ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์จนเสร็จสิ้นแล้ว ดังนั้น ขณะที่ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานโจทก์ในคดีนี้ จำเลยยังไม่มีทนายความคอยช่วยเหลือในการดำเนินคดี อันเป็นกระบวนการพิจารณาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาเห็นเป็นการจำเป็นที่จะให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 225⚖@ทุกคน #ทนายโตน #รับว่าความทั่วราชอาณาจักร #ฟ้องคดี #ที่ปรึกษากฎหมาย #รับว่าความ #ค้าความดี #เป็นเรื่องเป็นราว #ทนายขุขันธ์ #เทพกวนอูเทพเที่ยงธรรม #เป็นธรรม #แก้คดีความ #ทวงหนี้ #สืบทรัพย์บังคับคดี #จำนอง #กู้ยืม #smart #เพื่อนไปโรงพัก #นักสืบ #เพื่อนไปศาล #โตน #ทนายเก่งๆ #notarialservicesattorney #เจรจา #ลิขสิทธิ์ #สิงหวิโรจน์ทนายความ #SRBarrister #T0945241915 #นนทบุรี #ขอนแก่น #ศรีสะเกษ
ข่าว "ดราม่าทนายคนดัง" สะท้อนให้เห็นถึงจำเป็นที่ต้องมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับค่าทนายความ : ปพพ. มาตรา 853 บัญญัติว่า "ค่าทนายความให้คิดคำนวณตามตารางท้ายประมวลกฎหมายนี้" ซึ่งเป็นอัตราที่ศาลกำหนดสำหรับการสั่งคดี ในกรณีที่คู่ความเรียกร้องจากอีกฝ่าย และกรอบที่ศาลจะพิพากษาให้ผู้แพ้คดีชดใช้ แต่มิใช่เกณฑ์การจ้างทนายความเอกชนตามข่าว ไม่เกี่ยวข้องกับกฎหมายนี้แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาคดีที่เกี่ยวข้องกับค่าทนายความ เช่น ฎีกาที่ 5229/2544การคิดคำนวณค่าทนายความเป็นร้อยละจากจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทซึ่งกำหนดไว้แน่นอนนั้นไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ฎีกาที่ 5622/2530การคิดคำนวณค่าทนายความจากจำนวนที่จะได้รับตามคำพิพากษาเมื่อลูกความชนะคดี ถือเป็นสัญญาจ้างว่าความโดยวิธีแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์สินที่เป็นมูลพิพาทอันจะพึงได้แก่ลูกความ จึงเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน จะเห็นได้ว่าการกำหนดค่าทนายความนั้น ไม่มีกฎตายตัว ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ความยากง่ายของคดี ระยะเวลาในการดำเนินคดี ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น