ปัญหาความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ข้อกฎหมข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนที่ศาลมีอำนาจ ยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5) นั้น ต้องเป็นข้อกฎหมายที่ได้มาจากข้อเท็จจริงในการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยชอบ คดีนี้จำเลยให้การแต่เพียงว่าค่าเสียหายที่โจทก์เรียกมานั้นสูงเกินความเป็นจริง โดยมิได้ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมตามฟ้องโจทก์และถือว่าจำเลยรับว่าได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความแก่โจทก์แล้ว การที่ศาลชั้นต้นหยิบยกข้อเท็จจริงว่าสัญญาประนีประนอมยอมความมีเพียงลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลยโดยไม่มีพยาน2 คนลงลายมือชื่อรับรองไว้จึงไม่มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายขึ้นมาวินิจฉัยแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์เป็นการนำข้อเท็จจริงนอกเหนือประเด็นที่จำเลยยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในคำให้การขึ้นมาวินิจฉัยคำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงไม่ชอบ (คำพิพากษาฎีกาที่ 5290/2537 และ 6501/2539)ายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนที่ศาลมีอำนาจ ยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5) นั้น ต้องเป็นข้อกฎหมายที่ได้มาจากข้อเท็จจริงในการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยชอบ คดีนี้จำเลยให้การแต่เพียงว่าค่าเสียหายที่โจทก์เรียกมานั้นสูงเกินความเป็นจริง โดยมิได้ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมตามฟ้องโจทก์และถือว่าจำเลยรับว่าได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความแก่โจทก์แล้ว การที่ศาลชั้นต้นหยิบยกข้อเท็จจริงว่าสัญญาประนีประนอมยอมความมีเพียงลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลยโดยไม่มีพยาน2 คนลงลายมือชื่อรับรองไว้จึงไม่มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายขึ้นมาวินิจฉัยแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์เป็นการนำข้อเท็จจริงนอกเหนือประเด็นที่จำเลยยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในคำให้การขึ้นมาวินิจฉัยคำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงไม่ชอบ (คำพิพากษาฎีกาที่ 5290/2537 และ 6501/2539)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น