คดีไม่มีข้อยุ่งยาก
คดีไม่มีข้อยุ่งยากเป็นคดีแพ่งสามัญมิใช่คดีมโนสาเร่ แต่เนื่องจากเป็นคดีที่มีประเด็นไม่ยุ่งยากซับซ้อน มาตรา 196 จึงบัญญัติให้ศาลมีอำนาจที่จะสั่งรับฟ้องไว้เป็นคดีไม่มีข้อยุ่งยากและให้นำวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่มาใช้ในการดำเนินกระบวนพิจารณาเพื่อให้คดีเสร็จสิ้นไปโดยรวดเร็วคดีไม่มีข้อยุ่งยากแตกต่างกับคดีมโนสาเร่ 2 ประการประการแรก คดีมโนสาเร่นั้นพิจารณาที่จำนวนทุนทรัพย์ว่าหากเป็นคดีเล็กๆ น้อยๆ มีจำนวนทุนทรัพย์หรือค่าเช่าจำนวนเล็กน้อย ก็จัดให้เป็นคดีมโนสาเร่ แต่คดีไม่มีข้อยุ่งยากนั้นพิจารณาจากสภาพแห่งข้อหาหรือรูปคดีว่าหากเป็นคดีที่มีประเด็นไม่ยุ่งยากซับซ้อนและมีหลักฐานค่อนข้างชัดเจน แม้จะมีทุนทรัพย์สูงเพียงใดก็ตาม ก็จัดให้เป็นคดีไม่มีข้อยุ่งยาก และให้อยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะมีคำสั่งให้นำวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่มาใช้ในการดำเนินกระบวนพิจารณาตัวอย่างเช่น คดีที่โจทก์ฟ้องบังคับให้จำเลยชำระหนี้ตามเช็คที่ถูกปฏิเสธการจ่ายเงิน หรือฟ้องขอให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืม สัญญาจำนอง ซึ่งมีหลักฐานเป็นหนังสือสัญญากู้ สัญญาจำนองชัดเจน ก็ถือว่าเป็นคดีไม่มีข้อยุ่งยาก โดยไม่ต้องคำนึงว่าทุนทรัพย์จะมีจำนวนมากเพียงใดอาจมีทุนทรัพย์มากถึง 10,000,000 บาท หรือ 100,000,000 บาท ศาลก็สั่งรับฟ้องไว้เป็นคดีไม่มีข้อยุ่งยากและให้นำวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่มาใช้ในการดำเนินกระบวนพิจารณาได้ ดังนั้นเมื่อปรากฏต่อศาลในเบื้องต้นว่าคดีแพ่งสามัญที่โจทก์ฟ้องนั้นมีลักษณะเป็นคดีไม่มีข้อยุ่งยาก ศาลก็จะมีคำสั่งรับฟ้องคดีนั้นไว้เป็นคดีไม่มีข้อยุ่งยาก และให้นำวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่มาใช้ในการดำเนินกระบวนพิจารณา
#คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5204/2547 คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงินตามเช็คจำนวน 1,500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย แม้เป็นคดีแพ่งสามัญแต่เมื่อศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีโจทก์เป็นคดีไม่มีข้อยุ่งยาก และสั่งให้นำบทบัญญัติ ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่ใช้บังคับแก่คดีแล้ว ก็ต้องบังคับตามบทบัญญัติว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่ เมื่อโจทก์ไม่มาศาลในวันนัดพิจารณา โดยมิได้ร้องขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องที่ไม่มาศาล ซึ่งตามบทบัญญัติว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่ มิได้บัญญัติให้ถือว่า โจทก์ขาดนัดพิจารณา จึงไม่อาจมีการพิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดี ฝ่ายเดียวดังกรณีโจทก์ขาดนัดพิจารณาในคดีแพ่งสามัญได้ จึงถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป ศาลชั้นต้นชอบที่จะมีคำสั่งจำหน่ายคดีโจทก์เสียจากสารบบความ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 196 วรรคสอง #ทนายโตน #ทนายนนทบุรี-ศรีสะเกษ #รับว่าความทั่วราชอาณาจักร #ตามคดีไม่มีทิ้ง #ติดต่อได้ตลอดเฉพาะ 08.00-20.00 #โทร.ไอดีไลน์ 0945241915 #https://tonelawfirm.com/ #Inspire #https://smartthaiattorney.com #สนง.นนทบุรี https://maps.app.goo.gl/wU9VDh2ZpqeAcV6D7
#สนง.ศรีสะเกษ https://maps.app.goo.gl/DPUhM9mZNcQo852s7
#คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5204/2547 คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงินตามเช็คจำนวน 1,500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย แม้เป็นคดีแพ่งสามัญแต่เมื่อศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีโจทก์เป็นคดีไม่มีข้อยุ่งยาก และสั่งให้นำบทบัญญัติ ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่ใช้บังคับแก่คดีแล้ว ก็ต้องบังคับตามบทบัญญัติว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่ เมื่อโจทก์ไม่มาศาลในวันนัดพิจารณา โดยมิได้ร้องขอเลื่อนคดีหรือแจ้งเหตุขัดข้องที่ไม่มาศาล ซึ่งตามบทบัญญัติว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่ มิได้บัญญัติให้ถือว่า โจทก์ขาดนัดพิจารณา จึงไม่อาจมีการพิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดี ฝ่ายเดียวดังกรณีโจทก์ขาดนัดพิจารณาในคดีแพ่งสามัญได้ จึงถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป ศาลชั้นต้นชอบที่จะมีคำสั่งจำหน่ายคดีโจทก์เสียจากสารบบความ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 196 วรรคสอง #ทนายโตน #ทนายนนทบุรี-ศรีสะเกษ #รับว่าความทั่วราชอาณาจักร #ตามคดีไม่มีทิ้ง #ติดต่อได้ตลอดเฉพาะ 08.00-20.00 #โทร.ไอดีไลน์ 0945241915 #https://tonelawfirm.com/ #Inspire #https://smartthaiattorney.com #สนง.นนทบุรี https://maps.app.goo.gl/wU9VDh2ZpqeAcV6D7
#สนง.ศรีสะเกษ https://maps.app.goo.gl/DPUhM9mZNcQo852s7
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น