1966

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1966/2548 โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 3 และที่ 4 ในข้อหาความผิดฐานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยบรรยายฟ้องในข้อหานี้เพียงว่า จำเลยรู้อยู่แล้วว่าโจทก์กับพวกไม่ได้ร่วมกันกระทำความผิดฐานฉ้อโกง แต่กลับร่วมกันรับคำร้องทุกข์กล่าวโทษและดำเนินคดีแก่โจทก์กับพวกเป็นเหตุให้โจทก์กับพวกถูกควบุคมตัวเป็นผู้ต้องหา ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง สิทธิเสรีภาพของโจทก์กับพวก เท่านั้น โจทก์มิได้บรรยายในคำฟ้องว่าจำเลยได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยการบ่ายเบี่ยงละเลยไม่สั่งคำร้องขอประกันตัวระหว่างสอบสวนของโจทก์กับพวกแต่อย่างใด ดังนั้นแม้จะได้ความตามทางพิจารณาในชั้นไต่สวนมูลฟ้องว่าจำเลย มีพฤติการณ์ในทางบ่ายเบี่ยงละเลยไม่สั่งคำร้องขอประกันตัวระหว่างสอบสวนของโจทก์กับพวกก็ตาม ศาลก็ไม่อาจพิพากษาลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความดังกล่าวนั้นได้ เพราะเป็นข้อเท็จจริงนอกฟ้องต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคหนึ่ง ซึ่งบัญญัติว่า "ห้ามมิให้พิพากษาหรือสั่งเกินคำขอหรือที่มิได้กล่าวในฟ้อง" (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2548)#ALL#ทนายโตน #รับว่าความทั่วราชอาณาจักร #ฟ้องคดี #ที่ปรึกษากฎหมาย #ค้าความดี #เป็นเรื่องเป็นราว #นักสืบ #ทนายขุขันธ์ #เทพกวนอูเทพเที่ยงธรรม #เป็นธรรม #แก้คดีความ #ทวงหนี้ #สืบทรัพย์บังคับคดี #จำนอง #กู้ยืม #smart #เพื่อนไปโรงพัก #เพื่อนไปศาล #โตน #ทนายเก่งๆ #notarialservicesattorney #เจรจา #ลิขสิทธิ์ #สิงหวิโรจน์ทนายความ #SRBarrister #T0945241915 #นนทบุรี #ขอนแก่น #ศรีสะเกษ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ญาติมาอาศัย