ข่มขู่ว่าจะถูกดำเนินคดี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเสรีภาพ ชื่อเสียง และทรัพย์สิน หากไม่โอนเงินให้กับผู้กล่าวหา องค์ประกอบครบถ้วนตามความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ ฎ.467/2530 การข่มขู่ว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดี หากไม่ยอมชำระหนี้ ถือเป็นการขู่เข็ญด้วยประการอื่นใด อันทำให้ผู้ถูกขู่เข็ญกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อเสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน จึงเป็นความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ ฎ. 3614/2544การที่จำเลยขู่เข็ญผู้เสียหายว่าจะแจ้งความดำเนินคดี หากไม่ยอมคืนเงินค่าจ้างที่เรียกเกินไป ถือเป็นการกรรโชกทรัพย์ แม้ว่าจำเลยจะมีสิทธิเรียกร้องเงินคืนก็ตาม #ทนายโตน
ข่าว "ดราม่าทนายคนดัง" สะท้อนให้เห็นถึงจำเป็นที่ต้องมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับค่าทนายความ : ปพพ. มาตรา 853 บัญญัติว่า "ค่าทนายความให้คิดคำนวณตามตารางท้ายประมวลกฎหมายนี้" ซึ่งเป็นอัตราที่ศาลกำหนดสำหรับการสั่งคดี ในกรณีที่คู่ความเรียกร้องจากอีกฝ่าย และกรอบที่ศาลจะพิพากษาให้ผู้แพ้คดีชดใช้ แต่มิใช่เกณฑ์การจ้างทนายความเอกชนตามข่าว ไม่เกี่ยวข้องกับกฎหมายนี้แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาคดีที่เกี่ยวข้องกับค่าทนายความ เช่น ฎีกาที่ 5229/2544การคิดคำนวณค่าทนายความเป็นร้อยละจากจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทซึ่งกำหนดไว้แน่นอนนั้นไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ฎีกาที่ 5622/2530การคิดคำนวณค่าทนายความจากจำนวนที่จะได้รับตามคำพิพากษาเมื่อลูกความชนะคดี ถือเป็นสัญญาจ้างว่าความโดยวิธีแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์สินที่เป็นมูลพิพาทอันจะพึงได้แก่ลูกความ จึงเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน จะเห็นได้ว่าการกำหนดค่าทนายความนั้น ไม่มีกฎตายตัว ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ความยากง่ายของคดี ระยะเวลาในการดำเนินคดี ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ...

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น