คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9244/2551 โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่า "จำเลยกับพวกอีกคนหนึ่งได้รับมอบเงิน 116,620 บาท จากผู้เสียหายไว้ในความครอบครองให้โอนเข้าบัญชีของผู้มีชื่อในธนาคาร ขณะที่จำเลยกับพวกครอบครองเงินจำนวนนั้นของผู้เสียหายเป็นของตนเองโดยทุจริต อันเป็นการกระทำความผิดฐานยักยอก" โดยมิได้กล่าวถึงข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบข้อสำคัญของความผิดฐานยักยอกว่า จำเลยกับพวกกระทำการเบียดบังทรัพย์นั้น ซึ่งมีความหมายชี้เฉพาะถึงพฤติการณ์ที่ผู้กระทำความผิดแสดงออกมาให้เห็นแล้วว่าตนกับพวกเป็นเจ้าของทรัพย์ที่ครอบครองอยู่ แม้โจทก์จะบรรยายมาในฟ้องว่าจำเลยกับพวกกระทำการเช่นนั้นโดยทุจริต แต่การกระทำโดยทุจริตกับการเบียดบังเป็นองค์ประกอบคนละข้อในความผิดฐานนี้ จึงมีความแตกต่างกันอยู่ในตัว และโดยทั่วไปการทุจริตก็อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องเบียดบัง เพราะทุจริตเป็นแต่เจตนาพิเศษของการกระทำความผิดซึ่งแสดงให้เห็นว่าเบียดบังเอาทรัพย์เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่นเท่านั้น ฟ้องของโจทก์บรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดตาม ป.อ. มาตรา 352 ไม่ครบถ้วน ไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) และเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225 ศาลฎีกาย่อมยกขึ้นวินิจฉัยได้ แม้ว่าจำเลยจะไม่ได้ยกขึ้นต่อสู้ในศาลชั้นต้นก็ตาม.#ทนายโตน #รับว่าความทั่วราชอาณาจักร #ฟ้องคดี #ที่ปรึกษากฎหมาย #รับว่าความทั่วราชอาณาจักร. #รับว่าความ #เป็นธรรม #แก้คดีความ #ทวงหนี้ #สืบทรัพย์บังคับคดี #จำนอง #กู้ยืม #smart #เพื่อนไปโรงพัก #นักสืบ #เพื่อนไปศาล #โตน #ทนายโตน0945241915 #S #https #ทนายเก่ง #ลิขสิทธิ์ #สิงหวิโรจน์ทนายความและเพื่อน #notarialservicesattorney #เจรจา #สิงหวิโรจน์ทนายความ #SRBarrister #T0945241915 #นนทบุรี #ศรีสะเกษ
ข่าว "ดราม่าทนายคนดัง" สะท้อนให้เห็นถึงจำเป็นที่ต้องมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับค่าทนายความ : ปพพ. มาตรา 853 บัญญัติว่า "ค่าทนายความให้คิดคำนวณตามตารางท้ายประมวลกฎหมายนี้" ซึ่งเป็นอัตราที่ศาลกำหนดสำหรับการสั่งคดี ในกรณีที่คู่ความเรียกร้องจากอีกฝ่าย และกรอบที่ศาลจะพิพากษาให้ผู้แพ้คดีชดใช้ แต่มิใช่เกณฑ์การจ้างทนายความเอกชนตามข่าว ไม่เกี่ยวข้องกับกฎหมายนี้แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาคดีที่เกี่ยวข้องกับค่าทนายความ เช่น ฎีกาที่ 5229/2544การคิดคำนวณค่าทนายความเป็นร้อยละจากจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทซึ่งกำหนดไว้แน่นอนนั้นไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ฎีกาที่ 5622/2530การคิดคำนวณค่าทนายความจากจำนวนที่จะได้รับตามคำพิพากษาเมื่อลูกความชนะคดี ถือเป็นสัญญาจ้างว่าความโดยวิธีแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์สินที่เป็นมูลพิพาทอันจะพึงได้แก่ลูกความ จึงเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน จะเห็นได้ว่าการกำหนดค่าทนายความนั้น ไม่มีกฎตายตัว ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ความยากง่ายของคดี ระยะเวลาในการดำเนินคดี ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น