ข่าว "ดราม่าทนายคนดัง" สะท้อนให้เห็นถึงจำเป็นที่ต้องมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับค่าทนายความ : ปพพ. มาตรา 853 บัญญัติว่า "ค่าทนายความให้คิดคำนวณตามตารางท้ายประมวลกฎหมายนี้" ซึ่งเป็นอัตราที่ศาลกำหนดสำหรับการสั่งคดี ในกรณีที่คู่ความเรียกร้องจากอีกฝ่าย และกรอบที่ศาลจะพิพากษาให้ผู้แพ้คดีชดใช้ แต่มิใช่เกณฑ์การจ้างทนายความเอกชนตามข่าว ไม่เกี่ยวข้องกับกฎหมายนี้แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาคดีที่เกี่ยวข้องกับค่าทนายความ เช่น ฎีกาที่ 5229/2544การคิดคำนวณค่าทนายความเป็นร้อยละจากจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทซึ่งกำหนดไว้แน่นอนนั้นไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ฎีกาที่ 5622/2530การคิดคำนวณค่าทนายความจากจำนวนที่จะได้รับตามคำพิพากษาเมื่อลูกความชนะคดี ถือเป็นสัญญาจ้างว่าความโดยวิธีแบ่งเอาส่วนจากทรัพย์สินที่เป็นมูลพิพาทอันจะพึงได้แก่ลูกความ จึงเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน จะเห็นได้ว่าการกำหนดค่าทนายความนั้น ไม่มีกฎตายตัว ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ความยากง่ายของคดี ระยะเวลาในการดำเนินคดี ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ...
บทความ
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
การซื้อขายรถยนต์จะสมบูรณ์เมื่อมีการส่งมอบรถยนต์และมีการตกลงกันในเรื่องราคาและเงื่อนไขต่างๆ เป็นลายลักษณ์อักษiหรือในสัญญาซื้อขาย มีการตกลงกันในเรื่องราคาและเงื่อนไขต่างๆ หรือไม่? หากมีการตกลงกันในเรื่องดังกล่าว แม้จะยังไม่ได้ทำเป็นลายลักษณ์อักษร ก็อาจถือได้ว่ามีสัญญาซื้อขายเกิดขึ้นแล้วตาม ป.พ.พ. มาตรา 453 ซึ่งกำหนดว่า "อันว่าซื้อขายนั้น คือ สัญญาซึ่งบุคคลฝ่ายหนึ่งเรียกว่า ผู้ขาย โอนกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สินให้แก่บุคคลอีกฝ่ายหนึ่งเรียกว่า ผู้ซื้อ และผู้ซื้อตกลงว่าจะใช้ราคาทรัพย์สินนั้น" หากมีการชำระเงินบางส่วนหรือทั้งหมด ก็อาจเป็นพยานหลักฐานสนับสนุนว่ามีการตกลงซื้อขายกันเกิดขึ้นแล้ว มีเจตนาจะซื้อขายหรือไม่? แม้จะรับรถยนต์มาแล้ว แต่หากไม่มีเจตนาจะซื้อขายกันตั้งแต่ต้น เช่น รับรถยนต์มาทดลองขับ ก็อาจไม่ถือว่ามีสัญญาซื้อขายเกิดขึ้น หากยังไม่มีการตกลงกันในเรื่องราคาและเงื่อนไข หรือไม่มีเจตนาจะซื้อขายกันตั้งแต่ต้น ท่านสามารถคืนรถยนต์ได้ โดยอาจต้องเจรจากับผู้ขายเพื่อตกลงเงื่อนไขในการคืนรถยนต์ เช่น ค่าเสียหายจากการใช้รถยนต์ หากมีการตกลงกันในเรื่อง...
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
การขายตรงและตลาดขายตรง: บทวิเคราะห์เชิงกฎหมาย การขายตรงและตลาดขายตรงเป็นรูปแบบการค้าที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เนื่องจากมีความสะดวก รวดเร็ว และเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย อย่างไรก็ตาม รูปแบบการค้านี้ก็มีโอกาสที่จะเกิดการละเมิดสิทธิของผู้บริโภคได้เช่นกัน ดังนั้น กฎหมายจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแล เพื่อสร้างความเป็นธรรมและความสงบเรียบร้อยในสังคม 1. ความหมายและขอบเขตของการขายตรงและตลาดขายตรง พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 ให้คำนิยาม "การขายตรง" หมายถึง การเสนอขายสินค้าหรือบริการโดยวิธีการที่มิใช่การขายปลีก ซึ่งผู้ขายมิได้ตั้งอยู่ในสถานที่ขายเป็นประจำ ส่วน "ตลาดแบบตรง" หมายถึง การเสนอขายสินค้าหรือบริการโดยวิธีการใช้จดหมาย โทรศัพท์ โทรสาร สื่ออิเล็กทรอนิกส์ วิธีการทางวิทยาศาสตร์ หรือวิธีการอื่นใดในการติดต่อกับผู้บริโภคโดยตรง จากคำนิยามดังกล่าว จะเห็นได้ว่า การขายตรงเน้นที่ "วิธีการ" ในการเสนอขายที่ไม่ใช่การขายปลีกในสถานที่ตั้งเป็นประจำ เช่น การขายตรงแบบชั้นเดียว การขายตรงแบบหลายชั้น ส่วนตลาดแบบตรงเน้นที่ "ช่องทาง" ในการต...
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
การไม่แจ้งออกและไม่จ่ายค่าเช่างวดสุดท้าย: ผลทางกฎหมายและแนวทางแก้ไข จากกรณีศึกษาข้างต้น เกิดประเด็นปัญหาทางกฎหมายที่น่าสนใจ 3 ประการ ได้แก่ 1. การสิ้นสุดสัญญาเช่า หลักกฎหมาย: สัญญาเช่าเป็นสัญญาต่างตอบแทน ผู้เช่ามีหน้าที่ชำระค่าเช่า ผู้ให้เช่ามีหน้าที่ให้เช่าทรัพย์สิน ตาม ป.พ.พ. มาตรา 537 การบอกเลิกสัญญาเช่าต้องกระทำตามที่กฎหมายกำหนดหรือตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญา (ป.พ.พ. มาตรา 563) หากสัญญาเช่าไม่ได้กำหนดวิธีการบอกเลิกไว้ ให้บอกกล่าวล่วงหน้า 1 งวด (ป.พ.พ. มาตรา 564) วิเคราะห์: กรณีนี้ไม่ได้ระบุว่ามีการตกลงเรื่องการบอกเลิกสัญญาไว้ในสัญญาอย่างไร การที่ผู้เช่าไม่ได้แจ้งออกอาจถือเป็นการผิดสัญญาเช่า ทำให้สัญญาเช่ายังไม่สิ้นสุดลง ผู้เช่ายังคงมีภาระผูกพันต้องชำระค่าเช่าต่อไปจนกว่าจะบอกเลิกสัญญาโดยชอบด้วยกฎหมาย ฎีกาที่เกี่ยวข้อง: ฎีกาที่ 1372/2505 “จำเลยเช่าบ้านโจทก์อยู่ ต่อมาจำเลยออกจากบ้านเช่าโดยมิได้บอกเลิกสัญญา จำเลยต้องรับผิดชำระค่าเช่าบ้านแก่โจทก์ต่อไปจนกว่าโจทก์จะนำบ้านเช่าออกให้เช่าแก่บุคคลอื่นได้” 2. การหักเงินมัดจำ หลักกฎหมาย: เงินมัดจำมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นหลักปร...
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการตามคำสั่งศาลเพื่อยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา เจ้าของบัญชีจะไม่สามารถทำธุรกรรมใดๆ กับบัญชีดังกล่าวได้ 1. สาเหตุของการอายัดบัญชี การอายัดบัญชีธนาคารมักเกิดขึ้นเมื่อลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามคำพิพากษาเจ้าหนี้จึงมีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ ซึ่งรวมถึงเงินฝากในบัญชีธนาคารโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินในบัญชีไปชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ ตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาความแพ่งพ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 30) พ.ศ. 2560 มาตรา 294บัญญัติให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาสามารถขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีเพื่อยึด อายัดหรือขายทอดตลาดทรัพย์สินของลูกหนี้ได้ 2. แนวทางการดำเนินการเมื่อบัญชีถูกอายัด ยื่นคำร้องต่อศาล: ในกรณีที่ไม่สามารถตกลงกับเจ้าหนี้ได้ และเห็นว่าการอายัดบัญชีไม่ชอบด้วยกฎหมาย สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งอายัด หรือขอให้ปล่อยอายัดบางส่วนได้ เช่น ฎีกาที่ 648/2525 วินิจฉัยว่า "การที่ศาลสั่งอายัดเงินฝากของจำเลยเกินกว่าจำนวนหนี้ที่โจทก์ฟ้อง เป็นการไม่ชอบ จำเลยย่อมมีสิทธิขอให้ปล่อยอายัดเงินฝากส่วนที่เกิน" #ทนายโตน...
ญาติมาอาศัย
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ญาติมาอาศัยบ้าน ไล่ไม่ยอมออกไป ปพพ มาตรา 1336 บัญญัติว่า เจ้าของทรัพย์สินมีสิทธิใช้สอย ทำประโยชน์ จำหน่าย หรือทำลายทรัพย์สินของตน และมีสิทธิที่จะไม่ใช้สอย ไม่ทำประโยชน์ หรือไม่จำหน่ายทรัพย์สินนั้นก็ได้" มาตรา 1340 บัญญัติว่า "บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถ้าครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี บุคคลนั้นก็ได้กรรมสิทธิ์" ป.อาญา มาตรา 358 บัญญัติว่า "ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์" เจ้าของบ้านสามารถฟ้องคดีแพ่ง โดยเรียกร้อง ขอให้ศาลสั่งห้ามมิให้ผู้อาศัยล็อคบ้าน โดยอ้างสิทธิความเป็นเจ้าของตาม ป.พ.พ. มาตรา 1336 เรียกค่าเสียหาย หากพิสูจน์ได้ว่าการล็อคบ้านนั้น ทำให้เจ้าของบ้านเสียหาย เช่น เสียโอกาสในการปล่อยเช่า เสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี แจ้งความดำเนินคดีอาญา หากการกระทำของผู้อาศัยเข้าข่ายความผิดอาญา เช่น ทำให้เสียทรัพย์ หรือ ข่มขืนใจ เจ้าของบ้านสามารถแจ้งความต่อพนักงานสอบสว...
หน่วยการใช้
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 ได้นำ “หน่วยการใช้” และ “สารบริสุทธิ์” มาเป็นเกณฑ์สำคัญในการพิจารณาโทษ ซึ่งมีความหมายและผลทางกฎหมายที่แตกต่างจากกฎหมายเดิม หน่วยการใช้ หมายถึง ปริมาณของยาเสพติดที่ผู้เสพทั่วไปใช้เสพในแต่ละครั้ง ซึ่งกำหนดไว้ใน ตารางท้ายประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยยาเสพติดแต่ละชนิดจะมีจำนวนหน่วยการใช้แตกต่างกันไป เช่น เฮโรอีน 0.1 กรัม เท่ากับ 1 หน่วยการใช้ โคเคน 0.1 กรัม เมทแอมเฟตามีน 1 เม็ด เท่ากับ 1 หน่วยการใช้ สารบริสุทธิ์ ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 กำหนด ปริมาณสารบริสุทธิ์ขั้นต่ำ ที่ต้องถูกลงโทษไว้ใน ตารางท้ายประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งแตกต่างกันไปตามชนิดของยาเสพติด หากมีปริมาณสารบริสุทธิ์ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด จะไม่ถือว่าเป็นความผิด ตัวอย่างเช่น เฮโรอีน: ต้องมีสารบริสุทธิ์ตั้งแต่ 1 กรัมขึ้นไป เมทแอมเฟตามีน: ต้องมีสารบริสุทธิ์ตั้งแต่ 0.5 กรัมขึ้นไป โคเคน: ต้อ...